วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Day 2.1 Narita Airport to Naritasan Temple

✏ เล่าเรื่องโดย สามเฒ่าพาเที่ยว
 

     ถึง Narita airport Terminal 2 ในตอนเช้า แล้วจะบินไป Hokkaido ต่อในช่วงเย็น 
มีเวลาเที่ยวแถวนี้ประมาณ ชั่วโมง....ไปไหนดี....
......ไปตามรอยละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน” แถว Narita temple กันดีกว่า..
                      
                           

 ก่อนอื่นต้องหาที่ฝากกระเป๋าสัมภาระก่อน....
มีเคาเตอร์รับฝากกระเป๋า (Baggage Storage) อยู่ติดกับเคาเตอร์ที่แมวดำรับส่งสัมภาระ 
                                  Small:    310 yen per day
                                  Medium: 520 yen per day
                                  Large: 820 yen per day  
ดูเพิ่มเติมที่ http://www.narita-airport.jp/en/service/svc_06 

 สามเฒ่าพาเที่ยว Tip:
     รวบกระเป๋าเล็กใส่ในขนาดใหญ่ ให้เหลือจำนวนกระเป๋าที่ฝากน้อยที่สุด เพราะเขาคิดค่าฝากตามจำนวนกระเป๋า และระยะเวลาที่ฝาก

ปู้นๆๆๆๆ...รถไฟKeisei  ลงที่สถานี Keisei-Narita ค่าตั๋ว คนละ 260 yen 
     
ออกจากสถานี เดินตรงมา ผ่านป้ายรถเมล์ มี Bus สีชมพูที่มีตัวหนังสือ Aeon 
อันนี้จะไป Aeon mall (เดี๋ยวกลับมาใช้บริการ)  
แล้วเลี้ยวขวาเดินข้ามถนน  แล้วตรงมาเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางไปวัด

       เดินบนถนนช้อปปิ้งโอโมเตะซังโดะ(Omotesando street) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จาสถานีรถไฟ  ร้านค้าต่างๆ ที่ดูเก่าๆ มีร้านขายเซมเบ้)เครื่องจักสาร ก็มีด้วยนะ….หน้าร้านค้าตามถนนจะมีรูปปั้นสัตว์ต่างๆ
..ไม่แน่ในว่าถนนเส้นนี้เป็นฉากที่พระเอกตามนางเอกไปซื้อกิโมโนในละคร หรือเปล่า..

ที่เด็ดสุด คือมีร้านขายปลาไหล ที่แล่ปลาไหลให้เห็นจ๊ะๆ แบบ สดๆเลย 

ถึงแล้ว...วัดนาริตะซัง(Naritasan Temple) อยู่บนเขาเล็ก เป็นวัดพุทธนิกายชินงอน (Shingon) ที่มีชื่อเสียงในแถบคันโต  สร้างในปี 940 ทางเข้าวัดเป็น ซุ้มประตูใหญ่

ผ่านซุ้มประตูใหญ่ที่ตกแต่งงดงาม ก็จะเป็นลาน  โดยมีเสาโคมไฟหินรูปแบบต่างๆกันยืนเรียงรายทั้งสองข้างของทางเดิน  ก่อนจะขึ้นบันไดสูง ก็แวะทางขวามือมีที่ล้างมือ ล้างปากก่อนเข้าวัด

         จากนั้นก็เดินขึ้นบันได ผ่านประตูชั้นในนี้มีโคมไฟสีแดงใหญ่และเด่นแขวนประดับอยู่ตรงกลาง ด้านข่างมีรองเท้าสานยักษ์ แต่เล็กว่าที่วัดอาซากุซะ แล้วก็มีรองเท้าขนาดของคนห้อยเต็มไปหมด 
..เดาว่าเป็นการแก้บนซะละมั้ง....
?? ใครรู้ช่วยบอกทีว่ารองเท้าสานยักษ์ และองค์พระที่มีผ้าสีแดงคาดเหมือนผ้ากันน้ำลายเด็ก มีความหมายว่าอะไร 

       ผ่านโคมไฟสีแดงใหญ่ เข้ามาก็จะเห็นบันไดสูงชันขึ้นไปอีก มีบ่อเต่าอยู่ทางขวามือ แล้วมีเต่าหินอยู่กลางบ่อ
คนญี่ปุ่นเขาถือว่าเต่าเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่มีอายุยืน...
เดินขึ้นบันไดต่อไปอีก ก็จะเจอลานโล่ง มีอาคารที่หลากหลายตั้งอยู่
มีกระถางธูปใหญ่ตั้งอยู่ เป็นความเชื่อของคนที่นี่เขาจุดธูปไหว้
แล้วเอามือพัดควันธูปให้มาโดนหน้า เพื่อความสิริมงคล
มีฉากนี้ในละครด้วยนะ..เป็นฉากตอนที่พระเอกพานางเอกไปเที่ยว...

      หลังกระถางธูปก็จะมีศาลาใหญ่เด่นอยู่ตรงหน้า ด้านซ้ายก็มีอาคารเก่าๆ  ส่วนด้านขวามีเจดีย์ 3 ชั้นสีแดง สไตล์ Tahoto มีชื่อว่า Great Pagoda of Peace

ก็เดินเข้าไปไหว้พระ ดูอาคารไม้เก่าแกเหล่านี้....
.ดูต่อใน Clip การเที่ยวที่นี้ แถมจะเห็นวิธีการชำแหละปลาด้วย
 ซาโยนาระ naritasan temple

เดินกลับไปที่ท่าเมล์เพื่อไป Aeon Mall กันต่อ



Day 2.3 New Chitose airport to Furano

✒ เล่าเรื่องโดย สามเฒ่าพาเที่ยว
 2 ชั่วโมง... Vanilla ก็พาถึง New Chitose airport 
☛ เดินมาที่เคาเตอร์  Nippon rent a car .....รอเจ้าหน้าที่ สักพัก.....
มีเจ้าหน้าที่มารับเราไปขึ้นรถ เพื่อขับมาส่งที่ office

    เมื่อมาถึงก็เข้าไปติดต่อ ยื่นเอกสารที่เราจอง  ใบขับขี่สากล และพาสปอร์ต ของผู้ขับ 2 คน ตามที่แจ้งไว้ตอนที่จองรถทาง online 
     เจ้าหน้าที่บันทึกรายละเอียดต่างๆ ให้คำแนะนำ  กฎระเบียบต่างๆ เบื้องต้น การคุ้มครองของประกัน เบอร์ติดต่อ กรณีฉุกเฉิน รถเสีย หรือ อุบัติเหตุ 

ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วรถขับมาคืนไม่ได้ ต้องเสียค่าลากรถ ที่แพงพอสมควรเลยนะ
อันนี้ต้องระวังในการขับขี่

👄แล้วถามเรื่องการคืนรถ คืนรถที่ไหน.. เพราะตอนจอง ไม่รู้คืนที่ไหนเหมาะที่สุด
    .....เขาก็สอบถามว่าเราเดินทางวันที่คืนรถเส้นไหน เพื่อแนะนำ office ที่0tคืนi5
 เราก็เลือกเอาที่ใกล้สถานีรถไฟ....

   จากนั้น เซ็นต์เอกสาร รับทราบสิ่งที่อธิบาย  แล้วให้เอกสารมาการเช่ารถและ Hokkaido Road map ซึ่งเป็นสมุดแผนที่แล้วมี map code สถานที่สำคัญ

สามเฒ่าพาเที่ยว Tip:
ใน Hokkaido Road map มีคูปองส่วนลดด้วย เช่น Mt.Usuzan จาก 1,500 ลดเหลือ 1,350 ¥, Shiroi Koibito park(chocolate factory) จาก 800 เหลือ 600 ¥ 
 อย่าลืมดูนะ....

🚗 จากนั้นเจ้าหน้าที่ พามาที่รถ  มอบกุญแจ ตรวจเช็ครถ เจ้าหน้าที่พาเดินวนรอบๆ   แล้วสอนวิธีการใช้ GPS

➤ สำหรับบัตรทางด่วนที่เสียบหน้ารถ ระหว่างเที่ยว อย่าถอดออกมานะ
เจ้าหน้าที่บอกไว้
........เสร็จสิ้นทุกกระบวนการ ตั้ง GPS แล้วออกเดินทางสู่ฟุราโน...

 clip จากสนามบินรับรถ และขับไป furno
☛ เมื่อมีเขามาบังเส้นทาง...พี่ยุ่น แกก็เจาะป็นอุโมงค์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาขับอ้อมเขา
มีแบบ อุโมงค์ ยาว 3 กม. หรือแบบอุโมงค์ที่ที่มี Slope ไม่ใช้แนวราบอย่างเดียว 
หรือ พอ ออกจากอุโมงค์ ปั๊บ ก็มีอุโมต์ข้างหน้าต่อเลย 
 GPS  เวลาที่ merge ถนน  ก็จะบอกให้ระวัง หรือ ขับเกินสองชั่วโมงก็จะบอกให้คนขับควรพักก่อนขับต่อ  และจะมีการบอกค่าทางด่วนที่เราขับผ่านมาด้วย
ค่าทางด่วนมาเส้นนี้ถ้าไม่ใช้บัตร (HEP)ต้องจ่าย 1,880yen

ออกทางด่วน ก็เป็นถนน 2 เลนส่วนได้ แต่จำกัดความเร็วเหลือ 40-50 กม/ชม. เพราะเป็นถนนในเมือง
ขับรถค่ำนี้ชุ่มฉ่ำ มีฝนตกตลอดทาง  ระหว่างทางเจอหมาป่าตัวเล็กๆ อยู่ข้างถนนด้วยละ
....น่าเสียดายถ่ายรูปไม่ทัน...
 ระหว่างทางเส้นนี้ rocket wifi ใช้ม่ายได้
  
กว่าถึงที่พักก็มืดเลย  ที่พักของเราคืนนี้ Minshuku Mutsukar ที่เป็นเหมือนบ้านคน แล้วมาแบ่งเป็นให้เช่า แบบ home-stay
ห้องพักเป็นห้องรวมใหญ่ นอนได้มากกว่า 3  คน มีพัดลม โชคดีที่วันนี้ฝนตก ห้องก็เลยไม่ร้อนมาก 
ที่นี้มีข้อจำกัดนิดหนึ่ง คือ ห้องอาบน้ำเปิกให้ใช้เป็นเวลาคือ ช่วงเย็นเท่านั้น
พวกเรามาถึงมืดหมดเวลาใช้ห้องน้ำแล้ว เจ้าของต้องยอมให้อาบ (แต่ห้ามใช้อ่างอาบน้ำ) เพราะตอนเช้าห้องอาบน้ำห้ามใช้

ฝั่งตรงกันข้ามก็เป็น Supermarket ร้าน Lawson หาของกินตอนดึก>> มาม่า



ëค่าใช้จ่ายวันนี้ ของ 3 คน
ค่าฝากกระเป๋าประมาณ 5 ชม., 2 ใบ       1,040 ¥
ค่ารถไฟไป nartita sta.@260/คน                780 ¥
ค่ารถ nartita sta-aeon mall@210/คน        630 ¥
ค่ารถ aeon mall airport @250/คน              750 ¥
ค่าเครื่องบินไปกลับ  hokkaido            12,675฿
ค่าเช้ารถ 6 วัน                                 56,763¥
ส่วนลดเช่ารถเมื่อสมัครสมาชิก              -2,854¥ (ตอนมี promotion)
บัตร ETC                                                               324¥
hokkaido Express Pass(HEP)                     7,700¥
(คุ้มมากเพราะถ้าไม่ทำจะเสียค่าทางด่วนเป็นหมื่น)

.....ไปนอนเอาแรงก่อนนะ Zzzzzz......ติดตามต่อต่อไปของเที่ยววันที่ 2 

Day 2.2 Bus stop No.6 - Aeon Mall - Narita airport

✒เล่าเรื่องโดย สามเฒ่าพาเที่ยว
เดินกลับจากวัดมาทีท่ารถ Platform No.6 ที่อยู่หน้าสถานี Keisei-Narita
 ค่ารถไปคนละ 210 yen 
ตารางเวลาดูได้จาก http://narita-aeonmall.com.e.vd.hp.transer.com/static/detail/access-bustime3

ประมาณ 10 นาที ก็มาถึงห้างอิออนแล้ว โดยรถเมล์จะมาจอดเยื้องๆ หน้าร้าน Diso…แวะ Shop กันเลย
ห้างนี้ทัวร์ไทยแทบทุกคณะ  จะต้องแวะมาละลาย เงินเยนก่อนกลับกรุงเทพฯกัน เป็นห้างใหญ่ มีทุกอย่างครบครัน

ไปหาข้าวกินที่ food court สั่งอาหารมา 2 จาน คือ ข้าวไก่ทอดที่ราคาถูกกว่า ข้าวแกงกะหรี่ห่อไข่แบบไม่มีเนื้อ(เลย)  แถมเครื่องก็มากกว่า...ที่กินน้อยเพราะทุกคนเหนื่อยจากการเดินทางบนเครื่องบิน 


ได้เวลากลับก็มายืนรอรถคุณปู่ ที่หน้าร้าน the Space อยู่ตรงหัวโค้งนะ ที่เสาก็มีตารางเวลารถ  ค่ารถ 250 ¥/คน
(ส่วนที่จอดด้านหน้าตึกตามยาว เยื้องๆหน้าร้าน Diso ด้วยนะ เป็นที่จอดขามาที่นี้
ไปดู Clip กัน

☛ เมื่อมาถึง Narita terminal  2 มารับกระเป๋าตามเวลาที่แจ้งตอนที่เราฝาก
จากนั้นออกมาด้านหน้าอาคาร  มาหาท่ารถ เพื่อนั่ง free shuttle bus ไป terminal 3
� จะรู้ได้อย่างไร มีตั้งหลายช่อง?....
ที่ช่องรอจะมีป้ายบอกว่าช่องนี้ไปไหน  หรือไม่แน่ใจก็ถามเจ้าหน้าที่ หรือ

เมื่อมาถึง terminal 3  ก็ไป Check in … Vanilla airline… แล้วรอขึ้นเครื่อง
 บนเครื่องบิน Auntie Molly สังเกตไม่มีใครเอนพนักพิงเลย...เราก็เลยไม่กล้าเอนไปเหมือนกัน...
ไม่รู้เพราะอะไร หรือคนญี่ปุ่น นี่เขาตระหนักถึงผู้อื่น ถ้าเอนคนข้างหลังพื้นที่จะเหลือน้อยลง จะทำให้เขาอึดอัด ...หรืออย่างไร... อันนี้ไม่รู้นะ..
นี่แหละคือเสน่ห์ของการเดินทางได้เห็นสิ่งที่แปลกออกไป ถ้ามันดี ก็นำมาปรับใช้ 

สามเฒ่าพาเที่ยว Tip:
♪♫♮ ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี  ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ เกิดเป็นคนถ้าหากไม่เกรงใจใคร  
คนนั้นไซร้ไร้คุณธรรมประจำตน....♪♫♮ 
เป็นเพลงที่สอนสามเฒ่าร้องตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นสิ่งทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุขทุกคน 
ดังนั้นเวลานั่งเครื่องบิน ทุกคนก็จะไม่เจอแบบนี้ (อันนี้เจอตอนไปฮ่องกง)

แล้วไปดูกันว่าสามเฒ่าจะพาไปเที่ยวที่ไหนใน Hokkaido....ติดตามต่อในตอนหน้านะ
         >>   New Chitose airport  to Furano